กรมสุขภาพจิต แนะประชาชนเตรียมพร้อมเผชิญน้ำท่วม “ตั้งสติ อย่าตกใจ คิดถึงความปลอดภัยชีวิตไว้ก่อน” อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมซ้ำหรือน้ำท่วมใหม่จากฝนตกหนัก ติดตามประกาศเตือนภัย เตรียมความพร้อมร่วมกันในครอบครัว ตั้งสติ อย่าตกใจ กำหนดหน้าที่สมาชิกและวางแผนการขนย้ายสิ่งของจากบ้านเรือนไว้ให้พร้อม คิดถึงความปลอดภัยของชีวิตและคนในครอบครัวไว้ก่อน ส่วนผลการดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคอีสานตั้งแต่ 29 ก.ค.-17 ส.ค.2560 ประเมินปัญหาสุขภาพจิตกว่า 5,000 คน ในจ.สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ดพบผู้ที่มีความเครียดในระดับรุนแรง ต้องติดตามดูแลเฝ้าระวังใกล้ชิดเป็นพิเศษรวม 231 คน ( 17 สิงหาคม 2560 ) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์ความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 16-20 สิงหาคม 2560 ว่า กรมสุขภาพจิตมีความเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้สภาพจิตใจประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะเครียด จึงขอแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีโอกาสน้ำท่วมซ้ำอีกหรือพื้นที่ที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหม่ ติดตามข่าวสารประกาศเตือนภัยจากทางราชการเป็นหลัก เพื่อลดการตื่นตระหนก และความวิตกกังวล " ประการสำคัญ ขอให้ตั้งสติ อย่าตกใจ และให้คิดถึงความปลอดภัยของชีวิตและคนในครอบครัวไว้ก่อน เนื่องจากเป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยขอให้เตรียมความพร้อมร่วมกันในครอบครัว จัดเตรียมสำรองอาหารแห้ง กำหนดหน้าที่ของคนในครอบครัว และวางแผนการขนย้ายผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือได้น้อย เช่นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมทั้งสิ่งของจากบ้านเรือนไว้ให้พร้อม หากเกิดน้ำท่วมขึ้นจริง ก็จะสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดความสับสน ตื่นตระหนกลงได้ และจะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินลงได้มาก ผลกระทบความเครียดจะลดน้อยลง สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกโรค ขอให้จัดเตรียมยาที่กินประจำไว้ใกล้ตัว เพื่อหยิบง่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวช ห้ามขาดยา เพราะอาการจะกำเริบได้ ” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของความพร้อมการจัดบริการดูแลประชาชน ได้สั่งการให้โรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ สถาบันเฉพาะทาง และศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศรวม 32 แห่ง เตรียมความพร้อมทีมเยียวยาจิตใจ MCATT พร้อมเวชภัณฑ์ยาที่จำเป็นอย่างน้อยแห่งละ 3 ทีม เพื่อสนับสนุนทีม MCATT ในพื้นที่ในการดูแลจิตใจผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉินอย่างเต็มที่ โดยให้การปฐมพยาบาลทางใจลดความเครียดผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วและทำต่อเนื่องจนกว่าสภาพจิตใจจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเครียดรุนแรงซึ่งเป็นต้นตอเกิดอาการซึมเศร้า จะนำมาสู่การทำร้ายตัวเองได้ ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาการฆ่าตัวตายจากน้ำท่วมแต่อย่างใด ทั้งนี้หากประชาชนมีความเครียด ไม่สบายใจ สามารถรับบริการปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน อสม. หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี โพธ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จ.นครพนม กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานการฟื้นฟูจิตใจประชาชนในจ.สกลนครและนครพนมหลังประสบภัยน้ำท่วมในรอบ 19 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2560 จนถึงล่าสุด16 สิงหาคม 2560 ทีม MCATT ได้เยี่ยมบ้าน เยี่ยมชุมชน ฟื้นฟูจิตใจและตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มผู้ประสบภัย 5,275 คน พบผู้ที่มีความเครียดในระดับปานกลางขึ้นไปเฉลี่ยร้อยละ 8 ในจำนวนนี้มีผู้ที่มีความเครียดในระดับรุนแรง ที่อาจมีความเสี่ยงเกิดอาการซึมเศร้าได้ ต้องให้การรักษาดูแลและเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจำนวน 181 คน อยู่ที่สกลนคร 160 คน และที่นครพนม 21 คน ซึ่งทีมจิตแพทย์ในพื้นที่ได้ให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง จากการติดตามอาการล่าสุดวานนี้ส่วนใหญ่อาการดีขี้น โดยจะตรวจประเมินซ้ำในอีก 1 เดือน ทางด้านนายแพทย์ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 ได้จัดทีมจิตแพทย์เอ็มแคท เยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุอุทกภัยใน จ. กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ร่วมกับทีม MCATT เขต7 ผลดำเนินงานที่ร้อยเอ็ด ตรวจประเมินใน 4 ตำบลของอ.เสลภูมิ ที่มีน้ำท่วมหนักคือต.นางาม ต.วังหลวง ต.บึงเกลือ และต.นาเลิง ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 3 -16 สิงหาคม 2560 จำนวน 156 คน พบเครียดระดับรุนแรงเสี่ยงเกิดอาการซึมเศร้า 29 คน ในจำนวนนี้ 1 คนเป็นโรคซึมเศร้าอยู่เดิม ส่วนที่จ.กาฬสินธุ์ ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.-เช้าวันที่ 17 ส.ค. 2560 ได้ตรวจประเมินปัญหาสุขภาพจิตผู้ประสบภัย 317 คน พบผู้ที่มีความเครียดรุนแรง ต้องติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิดเป็นพิเศษ 21 คน เกือบทั้งหมดมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าอยู่เดิมแล้ว 7 คน โดยทีจิตแพทย์เอ็มแคทจะปฎิบัติงานฟื้นฟูจิตใจอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังมีพื้นที่ประสบภัย 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ยางตลาด ฆ้องชัย กมลาไสย และร่องคำ